BREAKING NEWS

condo living

Property

Category 7

sum of money : “เงินก้อน” ไม่มีให้เก็บ


อิสระภาพทางการเงิน เป็นคำยอดฮิตของคนยุคโซเชี่ยลออนไลน์ เป็นกระแสที่คนรุ่นใหม่ต้องการ เราเลยเห็นคนยุคนี้ ต่างดิ้นรนขวนขวายในการสร้างรายได้กันมากมายหลายทาง สังเกตได้ง่ายจากหน้าเฟสบุคของเรา เกือบครึ่ง เป็นเรื่องงานขายของ ขายเสื้อผ้า รองเท้า ครีมหน้าขาว อาหารเสริมลดความอ้วน ครีมอกฟู รูฟิต บลา บลา..ฯ ซึ่งต่างอวดอ้างสรรพคุณเกทับกันไป เกทับกันมา เชื่อไหมครับ ส่วนใหญ่ก็มาจากโรงงานผลิตเดียวกัน แถมบางครั้ง ไอ้ที่ราคาต่างกันของถูกกับของแพง ส่วนผสมก็ตัวเดียวกัน ต่างกันที่วัสดุห่อหุ้มผลิตภัณฑ์

อ่ะ แล้วยี่ห้อไหนมันจะดีไปกว่ากันได้ คนนั้นก็ขาย คนนี้ก็ขาย ก็มีแต่คนสั่งมาขาย ฝากร้าน กันพรึบ สุดท้ายคนที่ได้เงิน ก็คือเจ้าของโรงงานผลิต 


เฮ้อ ! แล้ว มนุษย์เงินเดือน เดินดินกินข้าวแกงอย่างเราจะทำอย่างไร
มนุษย์เงินเดือน ชื่อก็บอกแล้ว ว่า “มนุษย์” รวมกับ “เงินเดือน” หรืออีกความหมาย คือ “มนุษย์” ที่มีเงินใช้ “เดือนชนเดือน” เงินนะหรือจะมีเหลือเก็บ ยิ่งในโลกยุคนี้ด้วยแล้ว ยุคที่ค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นเร็วปรี๊ด (ยุคค่าครองชีพ 4G)
ยุคที่เราซื้อน้ำใส่ขวด (ผสมน้ำตาลเติมสีเติมกลิ่น แล้วบอกว่าเพื่อสุขภาพ) แพงกว่าราคาน้ำมันรถ 
ยุคที่เราต้องกินของแพงๆ แล้วถ่ายรูปแชร์ลงโซเชี่ยล เพื่อให้เพื่อนๆ เราเห็น แล้วจะมีเงินส่วนไหนไปเหลือเก็บกันได้
ถ้าในวัยที่เรายังมีเรี่ยวแรงหักโหมทำงาน เพื่อทำให้เรามีรายได้ (เพื่อให้เจ้านายรวย) แล้วยังไม่มีเงินเหลือเก็บ ก็อย่าหวังเลยว่า ในวันที่วัยชรามาถึง จะมีแรงหลงเหลือไปทำงานเลี้ยงชีพตัวเอง เพื่อต่อสู้กับค่าครองชีพที่อนาคต เราไม่รู้ว่าน้ำดื่มขวดนึงจะทะลุไปถึงร้อยบาทหรือไม่

จากสมการการเงิน 
รายได้ – รายจ่าย + ผลตอบแทนอื่นๆ = เงินก้อน (ที่จะเหลือเก็บ)
ถ้าเราบอกว่า รายได้ – รายจ่าย = เข้าใกล้ศูนย์บาท
ดังนั้นก็ฟันธงแบบหมอเดาได้เลยว่า เงินก้อนที่จะเหลือเก็บ และ ผลตอบแทนอื่นๆ ก็เข้าใกล้ศูนย์บาทเช่นเดียวกัน
ถ้าเมื่อหนทางหารายได้ก็ไม่มี ขายของออนไลน์ จะอกฟู รูฟิต หรือครีมหน้าขาว ก็ขายไม่เป็น 
เมื่อรวมๆ แล้ว รายได้ ก็คือเงินเดือนปกติ
สิ่งที่ต้องไปดูต่อก็คือ รายจ่าย เพราะถ้าเราสามารถทำให้รายจ่ายลดลง นั่นก็หมายถึงว่าหนทางที่จะนำเงินไปลงทุนสร้างรายได้ต่อ หรือนำไปเป็นเงินเก็บ ก็จะมีมากขึ้น
รายจ่าย เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่าห้องพัก ค่าของใช้ส่วนตัว ค่ากาแฟ ค่าการตลาดสร้างภาพในโซเชี่ยล และอื่นๆ อีกมากมาย ฯ 
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ อะไรที่เราปรับลดได้ก็ลองปรับกันดู อาจจะกินกาแฟติดแอร์ มีแบรนด์ ให้น้อยลง หันไปทานกาแฟรถเข็นกันบ้าง ลดการกินอาหารแพงๆ ลดค่าการตลาดสร้างภาพ(ตัวเรา) ในโซเชี่ยล ก็คงทำให้เราพอมีเงินเก็บหลงเหลือกันบ้าง
แต่ถ้าสุดท้าย ทำครบถ้วนกระบวนความ สมการการเงินของคุณ ก็ยังคงเป็น 
รายได้ – รายจ่าย = เข้าใกล้ศูนย์บาท 
หรือเหลือไม่มากที่จะนำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนอย่างอื่นได้
ก็อย่าเพิ่งสั้นหวังกันไป ลองหันมาใช้วิธีนี้กันดู

รายจ่ายส่วนใหญ่เป็นต้นทุนทางตรง หรือต้นทุนที่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องจ่ายมัน 
ฉะนั้นเราก็ไปทำให้รายจ่ายนั้น มาทำรายได้ให้กับเรากันดีกว่า

ถ้าวันนี้ รายจ่ายส่วนหนึ่งของคุณคือ ค่าเช่าห้องพัก ยินดีด้วยคุณได้ไปต่อ เพราะเราจะบอกว่า ค่าเช่าห้องพักนี่ละ สามารถสร้างรายได้ให้กับเรา โดยไม่ต้องไปเรียนรู้หลักการลงทุนอะไรมากมาย ไม่ต้องไปนั่งจิ้มกดจอ รอดูการขึ้นลงของกราฟ เส้นสีเขียวสีแดงใดๆ เราก็ใช้ชีวิต มนุษย์เงินเดือน ของเรา สร้างเงินที่ใช้เดือนชนเดือนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือเปลี่ยนจากค่าเช่าที่พักอพาร์ทเมนต์ เป็น เงินผ่อนคอนโดกับธนาคารแทน เชื่อไหมว่า ธนาคารหลายแห่งก็ยินดีให้เรายืมเงินก้อนไปซื้อคอนโด โดยที่เราไปผ่อนใช้หนี้ธนาคารทีหลัง (แหม ธนาคารนี่ ใจดีกับเราจริงๆ )

คอนโด เป็นอาคารพักอาศัย ที่มีรูปแบบคล้ายอพาร์ทเมนต์ แตกต่างตรงที่อพาร์ทเมนต์ มีเจ้าของคนเดียว แต่คอนโดมีเจ้าของหลายคน อีกทั้งคอนโดเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างนึง ที่มีความสามารถพิเศษกว่าทรัพย์ประเภทอื่นๆ คือ มูลค่าหรือราคาของมันจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป (มากน้อยตามทำเลที่ตั้ง) ทั้งนี้หากในสภาวะปกติ จากสถิติของอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรา จะปรับตัวสูงขึ้น 3% – 10% (แล้วแต่ทำเล) 

นั่นคือ ถ้าปีนี้เราซื้อคอนโดในราคา 1 ล้านบาท เมื่อเวลาผ่านไปสัก 5 ปี คอนโดหลังเดียวกันนี้ก็จะมีมูลค่าประมาณ 1.2 – 1.5 ล้าน 

โดยปัจจุบัน คอนโดราคา 1 ล้านบาท เราจะผ่อนธนาคารที่ประมาณ 6,500 - 7,000 บาทต่อเดือน โดยในเงินจำนวนนี้ส่วนนึงเป็นค่าดอกเบี้ย ที่ธนาคารคิดเป็นค่าดำเนินการในการออกเงินก้อนให้เรากู้ยืมซื้อคอนโด และอีกส่วนเป็นเงินต้นที่นำไปลดยอดเงินกู้ยืมซื้อคอนโด เมื่อเวลาผ่านไปเงินกู้ยืมนี้ก็จะลดลงตามเงินที่เราจ่ายให้ธนาคาร ซึ่งในขณะเดียวกัน มูลค่าคอนโดก็จะปรับราคาเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงว่า ถ้าเรานำคอนโดนั้นไปขายต่อ ก็จะได้ราคามากกว่าที่เราซื้อมาตอนแรก 

ตัวอย่างเช่น

ถ้าเรากู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อซื้อคอนโดแห่งหนึ่งมาในราคา 1 ล้านบาท เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และปัจจุบันกำลังจะขายต่อ ด้วยราคาซื้อ-ขายคอนโดปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท โดยเหลือหนี้คงค้างจากการขอกู้ยืมเงินจากธนาคารประมาณ 8 แสนบาท

ดังนั้นราคาขายปัจจุบันเท่ากับ 1,500,000.- บาท ลบด้วยเงินกู้ยืมธนาคาร 800,000.- บาท จะมีส่วนต่างราคาอยู่ที่ประมาณ 700,000.- บาท และด้วยเงินของส่วนต่างราคานี้ จะเป็นผลตอบแทนที่เราจะได้รับจากการที่เปลี่ยนจากเงินค่าเช่าห้องพักอพาร์ทเมนต์ มาเป็นเงินผ่อนธนาคารในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 


ทั้งนี้เราก็ยังนำค่าดอกเบี้ยที่จ่ายให้ธนาคาร นำไปเป็นส่วนลดเงินได้(ที่ไม่ค่อยจะมี) ในการยื่นภาษีประจำปีอีกด้วย

มนุษย์เงินเดือนทั่วไป มีเงินใช้แค่เดือนชนเดือนเหมือนคนอื่นๆ ก็สามารถสร้างรายได้ และมีเงินเก็บเป็นก้อน(เล็กๆ) หรือนำไปลงทุนต่อเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม โดยที่ไม่ได้ไปเรียนรู้หลักการลงทุนอะไร ใช้ชีวิตทำงานกินเงินเดือนเหมือนเดิม แต่วันนี้มี income เพิ่มเพราะทำหนี้ไว้เมื่อวาน
Copyright © 2014 Life Sabuy , คอนโดมิเนียม , คอนโด , ราคาประเมิน, ซื้อคอนโด, ราคาคอนโด, ขายคอนโด
www.lifesabuy.com