BREAKING NEWS

condo living

Property

Category 7

From our Blog

The Bangkok Mall, The Grand Metropolis

The Bangkok Mall, The Grand Metropolis -

   เปิดตัวแถลงข่าวกันไปแล้วนะครับ กับโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่ของ กลุ่มเดอะมอลล์ ที่ได้คว้าที่ดินแปลงงามบริเวณแยกบางนาไปเป็นที่เรียบร้อย โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการศุนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่มีชื่อว่า "The Bangkok Mall, The Grand Metropolis"
   เป็น    Mega Project  อีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองของวงการศูนย์การค้าที่เจ้าตลาดอีกเจ้ามาพัฒนาโครงการ หลังจากที่กลุ่มเซ็นทรัลเพิ่งเปิด "เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่". บริเวณถนนวิทยุไปได้ไม่นาน 
   และเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะทำให้ทำเลบริเวณสี่แยกบางนา. ได้พัฒนาความเจริญขึ้นไปอีกพอสมควร เชื่อได้เลยว่าตอนนี้  เหล่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คงเรื่มติดต่อหาซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยเป็นแน่แท้ ิ ด้วยระบบขนส่งมวลชนเองก็มีพร้อม อย่างรถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียว) เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ อีกทั้งที่ดินฝั่งตรงข้ามที่เป็นศูนย์การประชุมไบเทคบางนา ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนา เฟส2. ที่จะมีทั้งศูนย์ประชุมและอาคารสำนักงาน ที่จะยิ่งกระตุ้นความเจริญของบางนาขึ้นไปอีก. จึงทำให้วันนี้โซนบางนา จัดว่าป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจในการเลือกที่อยู่อาศัยเพื่อพักอาศัยหรือเพื่อการลงทุนอีกหนึ่งทำเล



















New CBD. Bangkok

- New CBD Bangkok-


ภาพประกอบ : Google Map

    ช่วงหลังๆ 2-3 ปีที่ผ่านมา บริเวณแยกถนนพระราม 9 - รัชดา ฯ มีการเปลี่ยนแปลงแบบที่ว่าเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะยิ่งหลังจากที่ กลุ่ม Central ทำการเปิดศูนย์การค้า Central - Grand Rama 9 ก็มีโครงการที่อยู่อาศัย อย่างเช่น คอนโดมิเนียม เปิดตัวกันเป็นสิบ โครงการ เช่น

  1. Ideo Mobi Rama 9
  2. Condolette midst rama 9
  3. Aspire Rama 9
  4. Rhythm-Asoke
  5. TC Green Condo
  6. Lumphini Park -Rama 9 - Ratchada
  7. Noble Revolve - Ratchada 1
  8. Noble Revolve - Ratchada 2
  9. Ivy Ratchada Condominium
  10. Aspace ID Asoke-Ratchada
  11. Casa Condo Asoke-Dindaeng
เหล่านี้ คือ โครงการคอนโด ที่ทยอยเปิดตัวตามๆ กันมา ส่วนราคาก็มีตั้งแต่หลักหมื่นปลาย-แสนบาทขึ้นต่อตารางเมตร ทั้งนี้ยังไม่ได้พูดถึง Belle Avenue @ Rachada-Rama 9 ที่มีราคาช่วงเปิดตัวประมาณ  5หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร มาปัจจุบันที่อาคารก่อสร้างแล้วเสร็จ ราคาขายก็ขยับไป 7-8 หมื่น บาทต่อตารางเมตรเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรวมๆ กันกว่าสิบโครงการนี้ ก็จะมีจำนวนห้องชุดหลายหมื่นยูนิต ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ แต่นี่เป็นเพียงอาคารชุดอยู่อาศัยที่เพิ่งเปิดขึ้นใหม่ไม่นาน ยังมี อาคารอีกประเภทหนึ่งที่เข้ามาในพื้นที่บริเวณ รัชดา-พระราม 9 นี้ และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ คือ โครงการอาคารสำนักงาน ซึ่งหากนับๆ ดู ก็ไม่ได้น้อยกว่า อาคารชุุดอยู่อาศัยซักเท่าไหร่  เราไปลองนับกันดูครับว่ามีโครงการอะไรบ้าง

  1. G Land Tower - Rama 9
  2. Unilever Towers
  3. AIA Capital Center
  4. Stock Exchange - Capital Market Center - Ratchada
และในนี้ยังมีส่วนของอาคาร CP Tower 2 - Ratchada ที่ได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ เจ้าถิ่งเดิม ที่ปรับตัวตามสภาพแวดล้อม 

สิ่งเหล่านี้ มีผลทำให้ ถนนรัชดาภิเษก - ถนนพระราม 9 ในปัจจุบ้น  มีความคึกคักยิ่งขึ้น ด่ังคำที่หลายๆ สำนักบอกว่า บริเวณพื้นที่นี้ กำลังจะเป็น New CBD ก็ไม่ได้ไกลเกินจริงแต่อย่างใด ซึ่งหากขยับขึ้นไปทางทิศเหนือ บริเวณห้างจัสโก้เดิม ปัจจุบันนี้ก็อยู่ระหว่างพัฒนาเป็นพื้นที่ศุนย์การค้า ของกลุ่ม Property Perfect และไม่ไกลจากจุดนั้น ก็เป็นที่ตั้งของโครงการ MCOT Complex Center ที่มีกำลังมีแผนพัฒนาโครงการเร็วๆนี้ 

ดังข้อมูลข้างต้นที่ผู้เขียน ได้สรุปคร่าวๆ ท่านผู้อ่านก็ลองพิจารณาดู หากกำลังสนใจพื้นที่บริเวณนี้สำหรับในการเลือกทำเลพักอาศัยในอนาคต อีกทั้งในปัจจุบัน ก็ยังมีแผนจากบริษัทผู้พัฒนา ที่จะผุดโปรเจคใหม่ๆ ที่คงไม่ได้มีเฉพาะโปรเจ็คตามที่เอ่ยถึงไปแค่นั้นครับ ซึ่ง รับรองได้ว่า ซัพพลายยังมีเข้ามาในตลาดๆเรื่อย

          
แสดงความคิดเห็น

ราคาซื้อขายที่ดินในปี 2014

- ราคาซื้อขายที่ดินในปี 2014 -


          ในปี 2014 นี้ตลาดคอนโดอาจจะดูเงียบเหงาลงไปบ้าง แต่ก็มีโครงการใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวอยู่เรื่อย ๆเพียงแต่ ตลาดคอนโดอาจจะไม่ดูไม่แรงเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้อาจจะด้วยดีมานด์กับซัพพลายเริ่มไม่สมดุลกัน ผู้พฒนาโครงการหลายๆ แห่งก็อาจจะกำลังดูสถาณการณ์ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
         
          ย้อนกลับไปดูที่วัตถุดิบในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ นั่นก็คือที่ดิน กันหน่อยนะครับ เพราะล่าสุดที่ทางผู้เขียนตรวจสอบข้อมูลได้ พบว่ามีการทำสถิติของราคาซื้อขายที่ดินจาก 1.5 ล้านบาท/ตารางวา ขยับไปที่  1.7 ล้านบาท/ตารางวา ไปเรียบร้อยครับ



       ด้วยราคาที่ดิน 1.7 ล้านบาท/ตารางวา ถ้าพูดถึงทำเลก็คงต้องเป็นทำเลพรีเมี่ยมจริงๆ มูลค่าที่ดินถึงได้สูงขนาดนี้ ท้้งนี้ แปลงนี้เป็นที่ดินติดถนนสุขุมวิทต้น ๆ และติดรถไฟฟ้า BTS ด้วย ราคาที่ดินถึงมีการซื้อขายที่สูง และด้วยราคาที่ดินขนาดนี้ หากนำมาพัฒนาโครงการคอนโดด้วยแล้ว ยังไม่กล้าคิดถึงราคาขายของคอนโดว่าจะสูงไปกี่แสนบาท/ตารางเมตร

       แต่จริงๆแล้ว ราคาซื้อขายที่สูงที่สุดในปัจจุบันไม่ใช่แปลงที่เอ่ยถึงไปนะครับ หากไม่ได้มองที่เงื่อนไขการขาย ราคาซื้อขายที่ดินที่แพงที่สุดที่มีการโอนไปเมื่อปี 2013 อยู่ที่ราคา 2 ล้านบาท/ตารางวา แต่เนื่องจากแปลงนั้นเป็นการซื้อขายในลักษณะพิเศษ ที่ผู้ซื้อมีความต้องการที่ดินแปลงนั้นมาก จึงส่งผลให้ราคาซื้อขายสูงมากกว่าสภาวะปกติในบริเวณนั้น (บริเวณสุขุมวิท 24) และแปลงนั้นก็นำมาพัฒนาเป็นโครงการอาคารชุดและเปิดขายไปแล้วเรียบร้อยโดยมีราคาขายคอนโดเริ่มต้นที่ 1.45 แสนบาท/ตารางเมตร


เพิ่งเริ่มปี 2014 มาไม่เท่าไหร่ ราคาซื้อขายที่ดินทะลุไปที่ 1.7 ล้านบาท/ตารางเมตร เรียบร้อย คงไม่ต้องแปลกใจนะครับ ถ้าในปีนี้หากเราลองค้นหาราคาเสนอขายที่ดินในทำเลพรีเมี่ยม จะพบราคาเสนอขายที่ดิน 2 ล้านบาท/ตารางวากันมากขึ้น นี่ละครับ อสังหาริมทรัพย์ ทีหลายๆคนบอกว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
แสดงความคิดเห็น

FREE WIFI TOT

เริ่มต้น ปี 2557 ปีที่มองไปรอบๆ ตัว ค่าครองชีพก็ดูเหมือนจะสูงขึ้นไปตามๆ กัน 
สิ่งที่จะช่วยบรรเทาค่าครองชีพของเราได้ ก็อาจจะต้องไปพึ่งพา บรรดาของฟรี 
ทั้งหลาย ที่มีให้เราใช้งานกันนะครับ FREE WIFI TOT ก็เป็นอีก หนึ่งโครงการ 
ที่ทาง ICT ช่วยจัดสรรค์โครงการมาช่วยเหลือประชาชนกันนะครับ
โดยการใช้งานก็ต้องมีการลงทะเบียนผู้ใช้งานกันนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไร

ดูวิธีการลงทะเบียนได้ที่ http://vip.totwifi.com/ict-metro1/manual_thai.php

LINK ลิงค์สำหรับลงทะเบียน ICT Free WiFi แบ่งตามจังหวัด


>> กรุงเทพมหานครและปริมณฑล3
>> กรุงเทพมหานครและปริมณฑล4 
1. กาญจนบุรี 
2. จันทบุรี 
3. ฉะเชิงเทรา 
4. ชลบุรี 
5. ชัยนาท 
6. ตราด 
7. นครนายก 
8. นครปฐม 
7. ประจวบคีรีขันธ์ 
8. ปราจีนบุรี 
9. พระนครศรีอยุธยา 
10. เพชรบุรี 
11. ระยอง
12. ราชบุรี
13. ลพบุรี 
14. สมุทรสงคราม
15. สมุทรสาคร 
16. สระบุรี
17. สิงห์บุรี 
18. สุพรรณบุรี 
19. อ่างทอง 
20. สระแก้ว 
21. กำแพงเพชร 
22. เชียงราย 
23. เชียงใหม่
24. ตาก 
25. นครสวรรค์ 
26. น่าน 
27. พิจิตร 
28. พิษณุโลก 
29. เพชรบูรณ์ 
30. แพร่ 
31. แม่ฮ่องสอน 
32. ลำปาง 
33. ลำพูน 
34. สุโขทัย
35. อุตรดิตถ์ 
36. อุทัยธานี
37. พะเยา
38. กาฬสินธุ์
39. ขอนแก่น
40. ชัยภูมิ 
41. ยโสธร 
42. นครพนม 
43. นครราชสีมา
44. บุรีรัมย์
45. มหาสารคาม 
46. ร้อยเอ็ด
47. เลย 
48. ศรีสะเกษ 
49. สกลนคร 
50. สุรินทร์
51. หนองคาย 
52. อุดรธานี 
53. อุบลราชธานี 
54. มุกดาหาร 
55. อำนาจเจริญ 
56. หนองบัวลำภู 
57. กระบี่
58. ชุมพร 
59. ตรัง 
60. นครศรีธรรมราช 
61. นราธิวาส 
62. ปัตตานี 
63. พังงา 
64. พัทลุง
65. ภูเก็ต 
66. ยะลา 
67. ระนอง 
68. สงขลา 
69. สตูล 
70. สุราษฎร์ธานี
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1100

* ส่วนข้อแนะนำในการใช้ หากต้องมีการทำธุรกรรม บนอินเตอร์เน็ต ก็ควรระมัดระวังการใช้งานกันสักนิดนะครับ

ตรวจสอบโฉนดที่ดิน - ตอนที่ 2

- ตรวจสอบโฉนดที่ดิน - ตอนที่ 2 -



    ในครั้งก่อนเราได้พูดถึง การ ตรวจสอบโฉนดที่ดิน กันไปแล้ว ซึ่งในการตรวจสอบนั้น บุคคลทั่วไปสามารถดำเนินการได้เลยครับ เพียงแต่ว่าอาจจะมีขั้นตอนดำเนินการสักเล็กน้อย แต่อาจจะมีบางท่านที่อาจจะมีโฉนดที่ดินอยู่ในมืออยู่แล้ว และแค่ต้องการดำเนินการตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของที่ดิน

     กรมที่ดินก็ได้พัฒนาแผนที่ web application ร่วมกับ Google Map ผ่านทางเว็บไซด์


     โดยมีหน้าตาตามรูปด้านล่างนี้ครับ ก็คล้ายๆ Google Map ทั่วไป เพียงแต่มีเลเยอร์ของแปลงที่ดินจากระวางกรมที่ดินซ้อนอยู่อีกเลเยอร์หนึ่ง (เส้นสีแดงๆ)


    การใช้งานก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ป้อนชื่อจังหวัด อำเภอที่ตั้งของโฉนดที่ดิน ตามที่ปรากฏอยู่ตามหน้าเอกสาร และตามเลขที่โฉนดที่ดิน จากนั้นก็ใชเม้าส์คลิกบริเวณปุ่ม ค้นหา  หากโฉนดที่ดินนั้นๆ มีอยู่ในฐานข้อมูลที่ดินของกรมที่ดิน แผนที่ก็จะเปลี่ยนไปยังตำแหน่งที่ตั้งของแปลงที่ดินนั้น

ตัวอย่าง


      จากรูปผมลองใส่เลขที่โฉนดตามที่นึกได้ลงไปครับ หากท่านผู้อ่านที่เป็นเจ้าของที่ดิน หรือมีที่ดินที่สนใจจะซื้อแล้วอยากลองตรวจสอบโฉนดที่ดินเบื้องต้น โดยไม่ต้องไปตรวจระวางจากสำนักงานที่ดิน ก็ลองใช้วิธีนี้ดูครับ ถือว่าสะดวกและประหยัดเวลามาก

     ลองใช้เมาท์คลิกที่ปุ่มไอคอนสีแดงดูครับ จะมีรายละเอียดที่ตั้งและข้อมูลของแปลงที่ดินนั้นๆ พร้อมค่าพิกัดของแปลงที่ดิน ที่เราสามารถนำค่าไปป้อนในเครื่อง GPS หรือสมาร์ทโฟน เพื่อหากเราต้องการเดินทางไปยังแปลงที่ดินนั้นๆ (กรณีที่เราจำตำแหน่งแปลงที่ดินไม่ได้)



      การค้นหาตำแหน่งนี้ใช้เพื่อการค้นหาเบื้องต้นนะครับ หากต้องการใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและอัพเดทข้อมูล ก็คงยังต้องใช้บริการตรวจเช็คจากกรมที่ดินจะถูกต้องมากกว่า

     และก็มีบางครั้งที่แผนที่แจ้งว่าไม่มีข้อมูลแปลงที่ดินนั้นๆ อาจจะด้วยทางกรมที่ดินยังไม่ได้อัพเดทข้อมูลแผนที่ หรือไม่โฉนดที่ดินก็อาจจะเพิ่งมีการแบ่งแยกแปลงที่ดินไป อาจจะทำให้ค้นหาข้อมูลไม่เจอ

ในครั้งนี้ขอจบบทความเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ซึ่งหากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาการค้นหาแปลงที่ดิน สามารถเมลล์มาสอบถามได้ที่

lifesabuy13@gmail.com

ซึ่งหากมีส่วนอื่นๆ ที่สามรถตอบได้ หรือหากต้องการให้ช่วยค้นหาข้อมูลแปลงที่ดินเบื้องต้น ก็ส่ง email มาคุยกันได้ครับ 


แสดงความคิดเห็น

Than Living : Sathorn-Charoenrat

-โครงการ Than Living : Sathorn-Charoenrat -


เป็นโครงการคอนโดใหม่ของ บริษัท สิราลัย จำกัด และได้จัดงานเปิดโครงการไปเรียบร้อยที่ Siam Center เมื่อวันที่ 16 -17 พ.ย. ที่ผ่านมา


ราคาขายโครงการ จากข้อมูลที่มี ราคาขายเปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,200,000 .- บาท หรือประมาณ 75,900.- บาท ต่อตารางเมตร มีรูปแบบให้เลือก ทั้ง 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, ดูเพล็กซ์, Executive room และ  Penthouse 

ข้อมูลเบื้องต้น ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถดูได้จากด้านล่างนี้ครับ
Location on Map

* สามารคลิกเลือกที่ปุ่ม EARTH (ปุ่มขวาสุด) เพื่อดูภาพ 3 มิติได้ 

ชื่อโครงการ : “ Than Living : Sathorn-Charoenrat  "
ที่ตั้ง            : ถนนเจริญราษฎร์ เขตบางรัก กทม.  .      
เนื้อที่        : ประมาณ  4  ไร่ หรือ 1,600 ตารางวา
ผู้พัฒนา : บริษัท สิราลัย จำกัด 
รูปแบบอาคาร : Residential Condominium Style Modern Contemporary
จำนวนอาคาร 1 อาคาร
จำนวนชั้น 36 ชั้น
จำนวนยูนิต 523 ยูนิต
ที่จอดรถ 298 คัน
คาดว่าจะแล้วเสร็จ ประมาณ กุมภาพันธ์ 2560

ขนาดห้องชุด   
  • 1 ห้องนอน สวีท พื้นที่ใช้สอยประมาณ   29 ตารางเมตร 
  • 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ  37 / 41 / 45 ตารางเมตร 
  • 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ  62 / 70 / 71 ตารางเมตร 
  • 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ พื้นที่ใช้สอยประมาณ  68 / 79 / 123 ตารางเมตร 
  • Executive Room พื้นที่ใช้สอยประมาณ  116 / 120 / 132 / 149 ตารางเมตร 
  • Penthouse Room พื้นที่ใช้สอยประมาณ  265 / 284 ตารางเมตร 

** ข้อมูลเบื้องต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลจากโครงการอีกครั้ง 

  • ภาพดีไซน์โครงการ
รูปแบบอาคาร



ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้อง







ความเห็นเพิ่มเติม

เนื่องด้วยที่ราคาที่ดินปัจจุบันมีการขยับปรับตัวสูงขึ้น การที่ผู้พัฒนาโครงการจะทำคอนโดออกขาย ถ้าหากเลือกทำเลถนนสายหลัก เช่น ถนนสาทร นั้น ด้วยต้นทุนที่ดิน ก็คงซื้อขายกันเป็นหลักล้านขึ้นไปต่อตารางวา ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยครับที่จะทำให้ราคาขายคอนโด ต่อตารางเมตรมีราคาสูง

ดังนั้นการเลือกทำเลถนนสายรอง ลงมาหน่อย เพื่อให้สามารถทำคอนโดขายได้ที่ราคาไม่สูงนัก
ก็อาจจะต้องเลือกถนนสายรอง ที่ด้วยทำเลแล้วก็สามารถเข้าสู่ถนนสายหลักได้ไม่ยาก

ข้อสังเกตุ สำหรับคนที่จะเลือกซื้อโครงการ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรพึงระวังตำแหน่งห้องทางด้านทิศเหนือ เพราะ ทราบว่าใกล้ๆ ที่ดินโครงการนี้ ก็มีโครงการคอนโดของอีกแบรนด์หนึ่ง 

   รายละเอียดเพิ่มเติม ลงทะเบียนรับข้อมูล หรือสิทธิ์พิเศษต่างๆได้ที่ >>> http://www.siralai.com/



ข้อควรคิดเมื่อ เลือกซื้อคอนโด ตอนที่ 3

- ข้อควรคิดเมื่อ เลือกซื้อคอนโด ตอนที่ 3 -

ในครั้งก่อนเราพูดถึง ปัจจัยภายนอก หลายๆ ด้าน แต่โดยรวมก็จะเป็นเรื่องของ ทำเลและสภาพแวดล้อมในบริเวณของคอนโด ที่เราจะซื้อ คราวนี้ก็ถึงคราวเปรียบเทียบของตัวโครงการและส่วนประกอบของโครงการคอนโดครับ


หลายคนอาจจะมองที่บริษัทผู้พัฒนาโครงการคอนโดขายเป็นหลัก อาจจะด้วยเพราะอาจจะเคยได้ยินข่าว หรือได้รับข้อมูลมาว่าคอนโดของเจ้านั้น เจ้านี้ดี แต่ก็มีบางคนอาจจะมองที่ รูปลักษณ์กายภาพของคอนโด, ทำเล หรือราคาของคอนโดยั่วใจ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่นะครับ ไม่อยากให้ความสำคัญกับข้อใดข้อหนึ่ง เพราะทุกอย่างก็ต้องนำมาพิจารณารวมกันทั้งหมด ไม่แนะนำให้ดูเฉพาะอย่างใดอย่างนึงครับ



-            ผู้พัฒนาโครงการ อาจจะมีหลายท่าน ที่พอได้ทราบข่าวว่า ผู้พัฒนาโครงการคอนโดขาย บริษัทที่อยู่ในใจมีการเปิดตัวโครงการในทำเลที่สนใจ  ก็มักจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ รีบเข้าไปจับจองหรือลงทะเบียนรับใบจอง ซึ่งในเคสแบบนี้ ส่วนมากก็จะเป็นนักลงทุนเป็นหรือลูกค้าเก่าบางส่วน ซึ่งหลายๆ บริษัทก็จะมีข้อมูลลูกค้าเก่า ที่พอเวลาใกล้จะเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ก็มักจะส่งข้อมูลให้นักลงทุนได้ทราบก่อนใคร (เพื่อให้นักลงทุนรีบหาเงินมาจองกันเร็วๆ นะ จะได้ขายหมดไวๆ )

      หากเป็นเมื่อก่อน โครงการอาคารชุดก็อาจจะเปิดขายทีเดียวหมดทั้งตึก แต่เนื่องจากบางบริษัทเห็นผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับหลังจากขายช่วงที่อาคารแล้วเสร็จ ที่บางครั้งอัตราผลตอบแทนสูงถึง 40 % - 50% (บางโครงการ) ทำให้ปัจจุบัน โครงการจะเปิดขายเป็นบางส่วน ไม่ได้เปิดขายทั้งหมด (แต่ออกข่าวว่าขายหมดแล้ว) เพื่อเก็บห้องชุดที่ทำเลๆ ดีไว้ขายช่วงที่อาคารแล้วเสร็จ (เพราะได้ราคาขายดีกว่า ตอนช่วงเปิดจอง ก่อนก่อสร้าง)

       ซึ่งหากเป็นท่านที่ซี้อเพื่อการอยู่อาศัย ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการไตร่ตรอง ศึกษาข้อมูล ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้ ตัดสินใจช้ากว่านักลงทุน และจองไม่ทันนักลงทุน หรือ หากจองทันก็มักจะเหลือ ห้องชุดในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดี (ห้องดีๆ ผู้ขาย อาจจะยังไม่ได้ปล่อยขายก็ได้นะครับ)



       แต่ ครับแต่ ก็ไม่เสมอไปทั้งหมดครับ อีกทั้ง ปัจจุบันมีโครงการคอนโด เกิดขึ้นมากมาย ซัพพลายมีให้เราเลือกหลายโครงการ ตลาดคอนโดปัจจุบัน เป็นของผู้ซื้อ ผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย เรา ค่อยๆ ศึกษาข้อมูลไปดีกว่าครับ (ศึกษาตอนนี้ เมื่อถึงเวลาเจอโครงการถูกใจ เราจะได้มีข้อมูลพร้อมครับ)

      เพราะบ่อยครั้ง ที่เมื่ออาคารแล้วเสร็จ ใกล้ถึงช่วง โอนกรรมสิทธิ์ หลายๆ โครงการมักจะมี ห้องชุดมาประกาศขาย และบางห้อง ก็มีราคาเท่ากับช่วงเปิดตัว หรือถ้าเจอ ผู้ซื้อที่ไม่มีความพร้อมและโดนผู้พัฒนาโครงการ เร่งให้โอน  ผู้ซื้อเหล่านั้น ก็ต้องเร่งขาย จนอาจต้องยอมขายขาดทุน เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้นกับหลายโครงการ ซึ่งหากเรามีความต้องการ คอนโด นั้นๆ จริงๆ ค่อยเลือกซื้อตอนนั้นก็ยังทันครับ (แถมได้เห็นอาคารของจริง ว่าเมื่อแล้วเสร็จ สภาพจะเป็นอย่างไร ไม่ได้ดูแต่ภาพจำลอง)


หัวข้อนี้มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ โปรดติดตามในตอนต่อไปนะครับ : Life Sabuy
แสดงความคิดเห็น

-โครงการ Park 24 Condo : สุขุมวิท24 -

-โครงการ Park 24 Condo : สุขุมวิท24 -


เป็นโครงการคอนโดแรกของ บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์บริษัทในเครือพราว เรียลเอสเตท ที่มีผู้บริหารที่เคยทำงานให้กับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งก็คงไม่แปลกใจที่ถ้าได้เห็นรูปแบบอาคาร ที่อาจจะมีรูปแบบอาคารอาจจะออกแนวทางเดียวกันแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันสะทีเดียว 



โดยรูปแบบอาคารจะมีทั้ง หมด 6 อาคาร (เปิดขายไม่พร้อมกัน) จุดขายของโครงการเน้นทางด้านธรรมชาติ (สังเกตุได้จากโฆษณาทางทีวี) โดยมีสวนใหญ่ภายในโครงการเองด้วยและโครงการอยู่ใกล้กับสวนเบญจสิริ ที่อยู่ติดกับเอ็มโพรเลี่ยม สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่โครงการแจ้งคือ 

"สวนสวยมีดีไซน์ขนาดใหญ่ , สระว่ายน้ำลอยฟ้า 2 สระ พร้อมจากุซซีพูล ยาว 40 เมตร บนชั้นสูงสุด , Fitness & Yoga studio กว้างกว่า 450 ตารางเมตร " 


รูปแบบอาคารมีส่วนของอาคาร ที่ดูคล้ายระแนงช่วยกรองแสงที่ส่งกระทบตัวอาคาร ก็จะช่วยในการอยู่อาศัยที่ทำให้เมื่ออยู่ภายในอาคารไม่ร้อนเหมือนปกติทั่วไป และช่วยทางด้านการใช้เครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นการออกแบบอาคารที่ใส่ใจต่อผู้อยู่อาศัย



ราคาขายโครงการ จากข้อมูลที่มี ราคาขายเปิดตัวที่ประมาณ 145,000 บาท/ตารางเมตร ด้วยราคาขนาดนี้ แต่เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมเป็น สุขุมวิท (สุขุมวิทไม่เคยตาย) ที่บริเวณปากซอยทางเข้าโครงการมี Emporium และเร็วๆ นี้  ก็จะมี Emporium 2 และ 3 ตามมา เป็นทางเลือกให้คนที่ชอบทำเลแถวนี้และชอบความสะดวกสบายครับ




ข้อมูลเบื้องต้น ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถดูได้จากด้านล่างนี้ครับ
Location on Map

* สามารคลิกเลือกที่ปุ่ม EARTH (ปุ่มขวาสุด) เพื่อดูภาพ 3 มิติได้ 

ชื่อโครงการ : “ Condo Park 24 : สุขุมวิท24 "
ที่ตั้ง          : ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 24 เขตคลองเตย กทม.      
เนื้อที่        : ประมาณ  12-2-00  ไร่ หรือ - ตารางวา
ผู้พัฒนา : บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด 
อาคาร : แบ่งเป็น 2 เฟส โดย

- เฟสแรกประกอบด้วย 3 อาคาร อาคารชุดเพื่อการพาณิชย์สูง 2 ชั้น 1 อาคารจำนวน 4 ยูนิต อาคารคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัย 2 อาคาร ความสูง 51 ชั้น และ 29 ชั้นรวม 837 ยูนิต

- เฟสที่ 2 มีทั้งหมด 3 อาคาร เป็นอาคารคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยความสูง 50 ชั้น, 40 ชั้น และ 30 ชั้น ตามลำดับ รวมกว่า 1,300 ยูนิต

ขนาดห้องชุด   
  • 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 27-28 ตารางเมตร 
  • 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 52-54 ตารางเมตร 
  • ห้องดูเพล็กซ์พื้นที่ประมาณ 80-106 ตารางเมตร
จำนวนห้องชุด : ประมาณกว่า 1,300 ยูนิต
ราคาขาย : ประมาณ  4  ล้านบาท  (ราคาวันเปิดตัวโครงการ )
ราคาเฉลี่ย : ประมาณ  145,000 บาท/ตารางเมตร
แล้วเสร็จ  : ประมาณไตรมาส 3 ปี 2561

** ข้อมูลเบื้องต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลจากโครงการอีกครั้ง 

  • ภาพดีไซน์โครงการ
รูปแบบอาคาร






ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้อง







ความเห็นเพิ่มเติม

ที่ตั้งโครงการนี้ ติดซอย 2 ด้าน ทั้งทางฝั่งสุขุมวิท 22 และซอยสุขุมวิท 24 แต่เนื่องจาก ภาพรวมของซอยสุขุมวิท 24 จะดูดีกว่า แถมบริเวณปากซอยสุขุมวิท 24 มีศูนย์การค้าเอ็มโพรเลี่ยม โครงการจึงเน้นที่ซอยสุขุทวิท 24 มากกว่า 

อีกทั้งหากดู จากผังที่ดิน ทางเข้าทางฝั่งโครงการ เป็นการซื้อที่ดินแปลงเล็กมารวมกับที่ดินแปลงใหญ่ ที่ทางเข้าติดซอย สุขุมวิท 22 โดยจากข่าว ที่ดินแปลงที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท 24 โครงการซื้อที่ดินมาในราคา 2 ล้านบาทต่อตารางวา เนื้อที่ดิน 2 ไร่ครึ่ง (นับเป็นราคาซื้อ-ขายที่ดิน ที่ราคาต่อตารางวาแพงที่สุดในตอนนี้)

แม้ปัจจุบันซอยสุขุมวิท 24 จะเด่นกว่าซอยสุขุมวิท 22 แต่อีกไม่นาน บริเวณปากซอยสุขุมวิท 22 ก็มีโปรเจคของกลุ่มเดอะมอลล์ นั่นก็คือ "เอ็มโพรเลี่ยม 3" ถึงตอนนั้น ราคาคอนโดของที่นี่คงมีการปรับราคาขายไปพอตัวทีเดียว

       
 รายละเอียดเพิ่มเติม ลงทะเบียนรับข้อมูล หรือสิทธิ์พิเศษต่างๆได้ที่ >>> www.park24.co.th
โบรชัวร์ PARK 24 (1) 
โบรชัวร์ PARK 24 (2)


โครงการคอนโด Centric Ratchada – Huai Khwang

-โครงการ Centric Ratchada – Huai Khwang-


เป็นโครงการคอนโดโครงการที่ 2 ของกลุ่ม เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น เป็นคอนโดมิเนียมสูง 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จากโครงการแรก " Centric-Ratchada-Suthisan " ตั้งอยู่หลังสถานีตำรวจสุทธิสาร อาจจะด้วยแนวโน้มการพัฒนาโดยรวมของถนนรัชดาภิเษก ที่ค่อยๆ เติบโต วันนี้ เอสซี แอสเสท ฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่อีกโครงการบนทำเลถนนรัชดาภิเษก  โดยชูคอนเซปต์


คอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่ใจกลางเมือง บนถนนรัชดาภิเษก ที่ให้ทุกความลงตัวของชีวิตเมืองอยู่ใกล้ๆคุณ

ด้วยทำเลที่เน้นความสะดวกสะบายในการเดินทาง ออกจากโครงการก็เดินไปสถานีรถไฟฟ้า  MRT- ห้วยขวาง ได้แบบ สบายๆ เพราะห่างจากสถานีประมาณแค 150 เมตรและติดถนนสายหลัก อย่าง ถนนรัชดาภิเษก หากดูที่ราคาขาย เปิดตัวที่ประมาณ 130,000.- บาท/ตารางเมตร ก็เป็นราคาทั่วไปของคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ที่เปิดตัวในช่วงนี้ที่ เริ่มกันแสนกว่าบาท/ตารางเมตร มีพื้นที่ขาย 674 ยูนิต ก็ไม่มากไปและไม่น้อยไป โดยมีรูปแบบห้องทั้ง  1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน (ขนาด 25.70 - 57.50 ตารางเมตร)


ข้อมูลเบื้องต้น ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถดูได้จากด้านล่างนี้ครับ

Location on Map


* สามารคลิกเลือกที่ปุ่ม EARTH (ปุ่มขวาสุด) เพื่อดูภาพ 3 มิติได้ 

ชื่อโครงการ : “ Centric Ratchada – Huai Khwang ”
ที่ตั้ง            : ถนนรัชดาภิเษก ใกล้ MRT - ห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.      
เนื้อที่        :  ประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 91 ตารางวา หรือ 1,491 ตารางวา
ผู้พัฒนา : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
อาคาร : คอนโดมิเนียมพักอาศัยจำนวน 1 อาคาร สูง 31 ชั้น
แบบห้องชุด  : 1-2 ห้องนอน และ Duplex 
ราคาขาย : เริ่มต้นประมาณ  3.29 ล้านบาท  (ราคาตอนเปิดตัวโครงการ )
ราคาเฉลี่ย : เริ่มต้นประมาณ 130,000 บาท/ตารางเมตร
แล้วเสร็จ  :  ประมาณปลายปี พ.ศ. 2558

** ข้อมูลเบื้องต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลจากโครงการอีกครั้ง 

  • ภาพดีไซน์โครงการ

รูปแบบอาคาร





ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้อง





*ภาพประกอบจาก http://www.skyscrapercity.com/ ของ user : panucci

ความเห็นเพิ่มเติม

ที่ดินของโครงการเดิมเป็นร้านอาหาร ที่เดินทางสะดวกมาก ซึ่งก็เป็นไปตามคาดครับ ด้วยทำเลแบบนี้ คงไม่หลุดรอด Developer ไปได้    เรื่องการการเดินทางเข้าออก ก็คงไม่ต้องพูดถึง เพราะด้วยทำเลของถนนรัชดาภิเษก (ว่าที่ New CBD.) ก็ถือว่าสะดวกในการเดินทางมากอยู่แล้ว และที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT- สถานีห้วยขวาง ที่ออกจากโครงการก็เดินไปสถานีระยะทางประมาณ 150 เมตร ก็คงไม่ต้องกลัวว่าจะเดินทางลำบาก และถ้าดูจากผังโครงการ ด้านทิศตะวันออกน่าจะติดซอยรัชดาภิเษก 14 แยก 1 แต่ไม่แน่ใจว่าทางโครงการจะทำทางเข้าออกจากทางด้านนี้ด้วยหรือไม่ (ตามรูป Googl Map ด้านล่างนี้) 


           
     * ความเห็นส่วนตัวสำหรับคนที่จะเลือกห้องชุดบริเวณทิศเหนือ อาจจะต้องระวังหน่อยครับ เพราะไม่แน่อาจจะมีแนวโน้มโดนบังวิวจากที่ดินแปลงใกล้ๆ กัน  เพราะเท่าที่ทราบข้อมูลที่ดินแปลงนั้น ก็อยู่ระหว่างเสนอขาย แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติม จะมาอัพเดทข้อมูลให้ทราบอีกครั้งครับ

    รายละเอียดเพิ่มเติม ลงทะเบียนรับข้อมูล หรือสิทธิ์พิเศษต่างๆได้ที่ >>> โครงการ

    ตลาดคอนโดต่างจังหวัด

    - ตลาดคอนโดต่างจังหวัด - 

    ช่วง 1-2 ปีมานี้ ตลาดคอนโด โตขึ้นมาก และไม่ได้กระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพมหานคร เท่านั้น ตามหัวเมืองใหญ่ๆ รวมทั้งเมืองท่องเที่ยว ก็มีคอนโดไปปรากฏให้ได้เห็นกัน มีทั้งจาก developerจากส่วนกลางและ developer ท้องถิ่น อีกทั้งราคาขายก็ไม่ได้เป็นรองกรุงเทพ สักเท่าไหร่ จึงทำให้หลายๆ developer ต่างสนใจที่จะเข้าไปพัฒนากัน


    สำหรับคนสนใจที่จะซื้อ คอนโดต่างจังหวัด เป็นบ้านที่ 2 หรือ 3 อาจจะต้องคิดกันมากกว่าการซื้อคอนโดในกรุงทพฯ. เพราะโดยความเห็นส่วน ตลาดคอนโดต่างจังหวัด อาจจะแตกต่าง จากตลาดคอนโดกรุงเทพ ดังนั้น นอกจากทำเล ส่วนควบต่างๆ และชื่อเสียงของผู้พัฒนาแล้ว คงตองมองรอบๆ ตอนไปจองและซื้อ ว่าเป็นการซื้อเพื่อลงทุน หรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่ากัน และถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำว่าควรจะซื้อคอนโดที่คนซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจะดีกว่าครับ 

    * ตัวอย่างคอนโด จากโครงการ เซนทริโอ ภูเก็ต

    * ตัวอย่างคอนโด จากโครงการ  “ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท กู้กู” ภูเก็ต

    หากคอนโดที่มีคนซื้อเน้นการลงทุน ต่อไปอาจจะเสี่ยงต่อการเงินและและการดูแลระยะยาว เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่อง การโอนกรรมสิืทธิ์ เพราะอาจจมีคนไม่ยอมไปโอนกัน เพราะคนซื้อแรกๆ กะซื้อเพื่อเกร็งกำไรขายใบจอง หากโชคดีหน่อยมีคนโอน แต่ไม่ได้ไปอยู่ ต่อไปก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการเก็บค่าส่วนกลาง และอาจจะกระทบต่อการเงินและสภาพคล่องของคอนโด ได้ครับ และก็มีผลทำให้สภาพโดยรวมของอาคารอาจจะดูเสื่อมโทรมเร็วกว่าเวลาอันควร และจะส่งผลทำให้มูลค่าคอนโดไม่ค่อยเพิ่ม หรือลดถอยลง

    ดังนั้นการซื้อคอนโด ต่างจังหวัด อาจจะต้องเลือกกันดีๆ มากกว่าในเมืองหลวงสักหน่อย ด้วยราคาขายก็ค่อนข้างสูง เทียบราคาต่อตารางเมตร ก็ไม่ได้เป็นรองกว่าราคาขายคอนโดในกรุงเทพ แต่หากซื้อในทำเลที่สามารถปล่อยเช่าได้ง่าย เช่นใกล้แหล่งท่องเที่ยว หรือสถาบันการศึกษา เช่น แถวๆ สมุย ก็จะมี คอนโด ที่ปล่อยให้เช่ารายวันด้วย ค่าเช่า ก็เรทๆเดียวกับโรงแรม 3 ดาว อย่างนี้ก็ถือเป็นการสร้างรายได้ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ สำหรับคนต่างถิ่น หากจะซื้อคอนโดต่างจังหวัด ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลรายละเอียดกันเยอะๆนะครับ
    แสดงความคิดเห็น

    ข้อควรคิดเมื่อ เลือกซื้อคอนโด ตอนที่ 2

    - ควรคิดเมื่อ เลือกซื้อคอนโด ตอนที่ 2 -


    จากเนื้อหาในครั้งที่แล้ว เราพูดถึงเรื่อง ปัญหาที่จอดรถยนต์ของคอนโด ไม่เพียงพอ ตอนนี้ขอก็วกกลับมาที่ ข้อควรคิดเมื่อจะเลือกซื้อคอนโด ในตอนที่ 2 กันนะครับ

    ทั้งนี้ประเด็นที่พูดถึงไปเป็นอันดับแรกคือ ทำเลที่ตั้งของคอนโด

    ปัจจุบัน ถ้าเป็นคอนโดในแนวรถไฟฟ้าแบบอยู่บนถนนเส้นเดียวกันเลย หรือห่างสถานีไม่เกิน 2-300 เมตร ราคาขายก็จะเริ่มกันที่ แสนบาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ยิ่งถ้าเป็น สถานีหลักๆ  มีแหล่งธุรกิจการค้า แหล่งชาวต่างชาติ เช่นสุขุมวิทช่วงต้น (รถไฟฟ้า BTS) ก็เริ่มกันที่สองแสนบาทขึ้น โดยจะเห็นว่าช่วงหลังๆ คอนโดบ้านเรามีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีกำลังซื้อก็ควรเลือกเกาะติดแนวรถไฟฟ้าเป็นดีที่สุดครับ

          ประเด็นต่อมาก็คือเรื่องการความสะดวกในการใช้รถยนต์สัญจร เพราะว่าถ้ากำลังซื้อของเราไม่ถึง ในการซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้า ก็ควรเลือกทำเลที่ รถยนต์เข้าออกสะดวก คำว่า  "สะดวก" ผมหมายถึงสะดวกในการใช้รถยนต์จริงๆเลยนะครับ ไม่ใช่ว่าติดถนนใหญ่แล้วจะสะดวกเสมอไป ตรงนี้ต้องดูดีๆ เพราะบางโครงการตั้งอยู่ติดถนนหลักก็จริง แต่บางครั้งเป็นถนนที่มีการเดินรถทางเดียว หรือจุดกลับรถอยู่ไกลคอนโดมากๆ ก็จะทำให้การใช้รถยนต์ไม่สะดวก แม้บางคนตอนที่ซื้ออาจไม่ได้ใช้รถยนต์ แต่ก็ไม่แน่ อนาคตเราอาจจะจำเป็นต้องใช้รถยนต์ก็เป็นได้ครับ ดังนั้นก็เลือกโครงการที่สามารถใช้รถยนต์ในการเข้าออกสะดวกไว้จะดีกว่าครับ

        อีกกรณีนึง หากในอนาคตเราต้องขายคอนโด หากมีผู้ซื้อสนใจจะซื้อห้องต่อจากเรา เขาอาจจะจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทาง ถ้าเกิดสนใจห้องที่เราขาย แต่พอมาดูสภาพทำเลและการเดินทาง และสังเกตุเรื่องการสัญจรเข้าออก อาจจะทำให้เปลี่ยนใจไม่ซื้อห้องเราก็ได้นะครับ และยิ่งหากเราร้อนเงิน และจำเป็นต้องขายคอนโด ราคาที่เราจะขายอาจจะต้องถูกกดราคาลงมากๆ เพื่อให้ขายได้ไวๆ และที่เห็น ก็มีหลายโครงการที่เป็นแบบนั้น อย่ามัวแต่เน้นว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า จนลืมคิดเรื่องนี้ไปนะครับ

         จากนั้น ก็อย่าลืมตรวจสอบสภาพแวดล้อมของบริเวณใกล้เคียง เช่น ในใกล้ๆ คอนโด มีร้านสะดวกซื้อ , ตลาด, ศูนย์การค้า หรือร้านอาหารหรือไม่ เพราะหากมีส่วนประกอบข้างต้น เมื่อเวลาเราขาดเหลืออะไร ก็จะได้ซื้อได้สะดวก ถึงแม้ว่าบางที่หลังคอนโดเสร็จ ก็จะมีร้านขายของต่างๆ มาเปิดใกล้ๆ คอนโด (รวมทั้งพี่วินมอไซด์ด้วย ก็จะแวะมาจับจองทำเลตั้งวิน) แต่นั่น ก็ไม่ใช่เรื่องแน่นอน เพราะอาจจะไม่มีใครสนใจ มาลงทุนเปิดร้านขายของ หรือร้านอาหาร อำนวยความสะดวกแก่เรา ดังนั้นก็เลือกทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเลย น่าจะเป็นการดีกว่า
    (หรือเราอาจจะเห็นโอกาส มาเปิดร้านขายเองเลยก็ได้นะครับ เพราะอาจจะได้ลูกค้ากลุ่มใหญ่จากคอนโด และถือเป็นการหารายได้มาชำระค่าซื้อคอนโด ก็ดีนะครับ ^^)


    •    โครงการพัฒนาของรัฐ


    โครงการพัฒนาของรัฐ ก็มีส่วนสำคัญในการศึกษาครับ ยกตัวอย่างเช่น ในกรุงเทพมหานครที่มีแผนพัฒนาของรัฐฝนการพัฒนารถไฟฟ้าให้ครอบคลุมถนนเส้นหลักๆ แต่ทั้งนี้ก็ควรเช็คข่าวบ่อยๆ ครับ เพราะบางทีโครงการอาจจะถูกยกเลิก หรือเปลี่ยนแนว แบบที่เกิดขึ้นกับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม เนื่องจากมีการปรับแนวเส้นทางจากศูนย์วัฒนธรรมฯ-เหม่งจ๋าย-วัดเทพลีลา-ถนนรามคำแหง ซึ่งมีชุมชนหนาแน่น เปลี่ยนไปวิ่งตามแนวถนนพระราม 9 และเข้าถนนรามคำแหงแทน  อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบและติดตามข่าวอยู่บ่อยๆ ครับ


    •   แนวโน้มความเจริญของพื้นที่

    รถไฟฟ้า ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการทำให้พื้นที่ที่อยู่ติดแนวรถไฟฟ้าจะมีความเจริญขึ้นเรื่อยๆ หากไม่นับแนวสุขุมวิท ที่ คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่า สุขุมวิทไม่เคยตาย ก็คงจะจริงครับ เพราะมีการพัฒนาของโครงการก่อสร้างของรัฐ และของเอกชนอย่างต่อเนื่อง ทำเลที่ ตอนนี้น่าจับตา และมีโครงการก่อสร้าง คอนโดมิเนียมอยู่เรื่อยๆ ทั้งแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่มีหมดครับ นั่นคือถนนรัชดาภิเษก ณ ปัจจุบัน (2556) เฉพาะคอนโด ที่เกาะแนวรถไฟฟ้า MRT ก็มีขึ้นไปกว่าสิบโครงการ ราคาจากเมื่อก่อน 6-7 หมื่น บาท ตอนนี้ก็ไปเริ่มกันที่ระดับแสนกว่าบาทขึ้นไปต่อตารางเมตร แต่ถ้าหลบเข้าถนนซอย ที่ไม่ไกลนัก ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาท  ก็ยังหาได้ทั่วไป ส่วนทำเลที่เป็นรอง และมีโครงการพัฒนาของรัฐที่น่าจับตาก็มีหลายที่ครับ เช่นแถวบางซื่อ , จรัญสนิทวงศ์, ถนนเพชรเกษม , ถนนลาดพร้าว ฯ พูดง่ายๆ ก็ตามแนวรถไฟฟ้านั่นแหล่ะครับ รวมถึงแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ก่อสร้างกันมาหลายปี  แต่เนื่องจากทำเลของสายสีม่วงอาจจะออกไปอยู่นอกเมืองสักหน่อย หากจะเลือกที่อยู่อาศัย ก็ควรจะเป็นในรูปแบบของ ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวน่าจะเหมาะกว่า


           อีกสิ่งนึงที่มีผลต่อการพัฒนาความเจริญ นั่นก็คือ ศูนย์การค้าต่างๆ หรือ Community Mall ต้องยอมรับครับว่าช่วงหลังๆ มานี้ Community Mall หลายแห่งสามารถปลุกกระแสได้ดี มีผู้คนเข้าไปถ่ายรูปและท่องเที่ยวพักผ่อนกันเยอะ ถ้าในบริเวณใกล้ๆกับโครงการที่เราซื้อมีสิ่งเหล่านี้อยู่ ก็คงทำให้ชีวิตวันพักผ่อนของเราที่คอนโด มีความสุขยิ่งขึ้น ไม่ต้องออกไปดิ้นรนกับรถติดมากมาย เพราะเราสามารถหาสิ่งเหล่านี้ได้ใกล้ๆ กับคอนโดที่เราซื้อ รวมทั้งปัจจุบัน ผู้พัฒนาคอนโดหลายๆเจ้า ก็มีแผนจะพัฒนาแหล่งการค้าอย่างเช่น Community Mall ในพื้นที่ติดกับโครงการคอนโดด้วยตัวเองเลยก็มีหลายที่ครับ ก่อนซื้อก็ลองสอบถามดูกับผู้ขายครับ

        แต่ทั้งนี้ประเภทบอกว่าจะมีโครงการ Community Mall  แต่จนวันที่คอนโดแล้วเสร็จก็ยังไม่มี ตรงนี้ก็พึงระวังไว้ครับ เพราะหากทำเลดีๆ และยอดขายของคอนโดดีมาก บางครั้ง ผู้ประกอบการอาจจะเปลี่ยนจาก Community Mall มาเป็นพัฒนาคอนโดใหม่อีกโครงการก็มีเกิดขึ้นมาแล้วนะครับ


    เบื้องต้นนี้จะเป็นส่วนของ ปัจจัยภายนอก เป็นหลัก ในครั้งต่อไปเราจะไปพูดถึง ปัจจัยภายใน กันนะครับ
    แสดงความคิดเห็น

    ปัญหาที่จอดรถยนต์ของคอนโด ไม่พอ

    - ปัญหาที่จอดรถยนต์ของคอนโด ไม่พอ -

     
         เชื่อว่าปัญหาหลักๆ ของ คอนโด ทั่วๆไป ปัญหาในการอยู่อาศัย ก็มีด้วยกันหลายๆ ปัญหา (ยิ่งคนอยู่เยอะ ปัญหาก็เยอะขึ้น -_-!) หนึ่งในนั้นเชื่อว่าปัญหาของ ที่จอดรถไม่เพียงพอ น่าจะเกิดขึ้นกับหลาย ๆ โครงการ

         ซึ่งโดยปกติแล้ว คอนโด ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบที่จอดรถมาให้ครอบคลุมครบทุกห้อง (แถมบางห้องยังแอบใช้รถ 2 คัน รู้นะครับ ^_^)


          อ่ะ ๆ ไม่ต้องงครับ ว่า แล้วทำไมเขาไม่ออกแบบมาให้ครบละ



       การออกแบบที่จอดรถให้ครบทุกห้องสามารถทำได้ครับ (ไม่ได้ห้าม) แต่ส่วนใหญ่ ผู้พัฒนาโครงการเลือกที่จะไม่ทำจอดรถให้ครบทุกห้อง เพราะอะไรนั่นหรอครับ 

        ก็เพราะถ้าหากต้องมีที่จอดรถครบทั้งหมด  สิ่งที่ตามมากนั่นก็คือต้นทุนในการขายจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อต้นทุนมากขึ้น ก็ส่งผลให้ราคาขายต้องสูงขึ้น เพราะต้นทุนในการทำที่จอดรถก็จะถูกรวมไปในราคาขาย ทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้น ขายยากขึ้น แถมยังส่งผลไปถึงพื้นที่ก่อสร้างถูกใช้ไปมากขึ้น เลยเหลือพื้นที่การทำห้องขายถูกทอนให้น้อยลง (พื้นที่ก่อสร้างมีเนื้อที่ก่อสร้างจำกัด ถูกกำหนดด้วย FAR ของแต่ละแปลงที่ดิน) เมื่อจำนวนยูนิตน้อยลง กำไรในการขายก็น้อยลง  ผู้พัฒนาโครงการส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะทำพื้นที่ที่จอดรถเฉพาะตามระเบียบควบคุม เช่น ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ก็จะมีข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมอาคาร พ.ศ.2544 กำหนดไว้ว่า

    • อาคารอยู่อาศัยรวมหรืออาคารชุด ที่มีพื้นที่ห้องชุด ที่มีพื้นที่ห้องชุดแต่ละห้อง 60 ตารางเมตรขึ้นไป ให้มีสัดส่วนการคิดที่จอดรถ 1 คันต่อ1ห้อง 

    แต่เนื่องด้วย พื้นที่ห้องชุด ไม่ได้ถูกจำกัดขนาด ว่าต้องมีพื้นที่ขายขั้นต่ำ 60 ตารางเมตร (พื้นที่ยิ่งเยอะ ราคายิ่งแพง ก็จะขายยากขึ้น) โดยปัจจุบัน พื้นที่ขายห้องชุด มีขนาดเล็กลง (เพื่อให้ราคาต่อยูนิตไม่สูงมาก) โดยห้องขายไซส์เล็ก ที่เห็นปัจจุบันนี้มีขนาด 21 ตารางเมตร ดังนั้นก็จะไม่เข้าเกณฑ์ข้อแรก แต่อาคารชุดจะเกี่ยวเนื่องอีกหลักเกณฑ์คือ



    • อาคารขนาดใหญ่ โดยหลักเกณฑ์ของอาคารขนาดใหญ่คือ ให้มีที่จอดรถ 1 คันต่อพื้นที่อาคาร 120  ตารางเมตร (เศษของ 120 ตารางเมตร ก็ให้คิดเป็น 1 คัน)


    การคิดจำนวนที่จอดรถในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็จะเข้าเกณฑ์ในส่วนที่ 2 หากโครงการทำพื้นที่ที่จอดรถ มาเท่าที่มีข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร กำหนด ก็จะยิ่งมีปัญหา เพราะด้วย ปัจจุบันพื้นที่ขายต่อห้องชุดน้อยลงกว่าแต่ก่อน


    สมมุติว่าพื้นที่เท่ากับ 21 ตารางเมตรต่อ 1 ห้องทั้งหมด  จะเข้าเกณฑ์การคิด 1 คันต่อพื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร นั่นคือ ที่จอดรถ 1 คันต่อ 5.7 ห้อง ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ก็จะน้อยมากๆ



    ถึงแม้ว่าคอนโด จะตั้งอยู่ในพื้นที่ๆ มีความเจริญ  แต่ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมีรถยนต์ใช้ เพื่อสะดวกในการเดินทาง เมื่อมีการใช้รถยนต์เยอะขึ้น ก็ส่งผลให้มีความต้องการพื้นที่จอดรถยนต์เยอะขึ้น เลยเป็นที่มาของปัญหาที่จอดรถยนต์ไม่เพียงพอ

    ดังนั้น ก่อนจะซื้อคอนโด สิ่งหนึ่งที่สำคัญ ไม่แพ้ ข้ออื่นๆ ก็อย่าลืมตรวจสอบกับผู้ขายด้วยนะครับ ว่ามีที่จอดรถอยู่กี่คัน ถ้าทุกอย่างเหมือนกัน ก็อย่าลืมเลือกโครงการที่มีที่จอดรถเยอะๆ นะครับ


    อ้อ! อีกอย่าง คอนโดบางแห่ง มีนโยบายเก็บค่าจอดเป็นรายเดือน (เก็บแยกจากค่าส่วนกลางปกติ) ดังนั้นก่อนทำการซื้อ อย่าลืม สอบถามและเปรียบเทียบเรื่องนี้ด้วยนะครับ และอย่าลืมเตรียมตัวรับมือกับการที่จอดรถในคอนโดไม่พอด้วยนะครับ
    แสดงความคิดเห็น

    โครงการ Condo : IDEO Q - Rama 4

    - โครงการ Condo : IDEO Q - Rama 4 -

       เปิดตัวทางทีวีแบบแปลกตาไปเลยนะครับ กับคอนโดใหม่ของ IDEO ตึกสวย แปลกตา แต่ก็ยังคง Concept เดิม ที่คอนโดอยู่แนวรถไฟฟ้า เน้นความสะดวกสะบายในการเดินทาง ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ประมาณ 300 เมตร ก็เดินได้แบบ สบายๆ และที่ตั้งโครงการติดถนนสายหลัก อย่าง ถนนพระราม 4 และก็อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางศูนย์การค้า อย่าง Paragon,  Siam Sqare, MBK ฯ โดยตอนนี้ >> IDEO ก็เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับผู้สนใจโครงการ ราคาขายก็ประมาณ 1.3 แสนบาท / ตารางเมตร เป็นทางเลือกอีกโครงการ สำหรับคนชอบย่านนี้ โดยบริเวณใกล้เคียงก็เป็น มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ที่มีโครงการพัฒนาโครงการในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเอง เชื่อว่าอีกไม่นาน บริเวณพื้นที่แถวๆ นี้น่าจะมีความครึกครื้นเพิ่มขึ้นแน่นอน

    * ข้อมูลเบื้องต้น ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถดูได้จากด้านล่างนี้ครับ

    Location on Map


    * สามารคลิกเลือกที่ปุ่ม EARTH (ปุ่มขวาสุด) เพื่อดูภาพ 3 มิติได้ 

    ชื่อโครงการ : IDEO Q - Rama 4 ” (IDEO Q จุฬา-สามย่าน )
    ที่ตั้ง            : ถนนพระราม 4 เขตบางรัก กทม.      
    เนื้อที่        : ประมาณ  5-3-63  ไร่ หรือ 2,363 ตารางวา
    ผู้พัฒนา  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
    อาคาร : คอนโดมิเนียมพักอาศัยจำนวน 1 อาคาร สูง 40 ชั้น
    ขนาดห้องชุด   
      จำนวนห้องชุด : ประมาณ 1,605 ยูนิต
      ราคาขาย : เริ่มต้น ประมาณ 2.89 ล้านบาท (ราคาวันเปิดตัวโครงการ )
      ราคาเฉลี่ย : ประมาณ 1.3แสนบาท/ตารางเมตร
      แล้วเสร็จ  -


      ** ข้อมูลเบื้องต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลจากโครงการอีกครั้ง 

      • ภาพดีไซน์โครงการ
      รูปแบบอาคาร


      ตัวอย่างสิ่งอำนวยความสะดวก









      ความเห็นเพิ่มเติม

             ช่วงนี้ จะค่อยๆ ทะยอยเห็นโครงการคอนโดใหม่ๆ เกิดขึ้น แนวถนนพระราม 4 เรื่อยๆครับ อาจจะเนื่องด้วย โซน สุขุมวิท มีคอนโดอยู่เยอะแล้ว Supply เริ่มล้น ผู้พัฒนาก็ต้องหาทำเลใหม่ๆ 
             ที่ดินของโครงการนี้ ได้ทราบว่าเป็นโรงหนังเก่าอยู่ติดกับโรงแรมแมนดาริน เป็นโครงการคอนโดที่ อนันดาร่วมทุนกับกลุ่มมิตซุยฟูโดซัง ประเทศญี่ปุ่น 
                 ราคาขายคอนโดเริ่มต้นที่ประมาณ 1.3 แสนบาท/ตารางเมตร ก็เป็นราคาขาย ทั่วไปของคอนโดที่มีลักษณะที่ตั้งใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า และสำหรับ IDEO เองที่รูปแบบอาคาร ออกแบบมาแนวใหม่ดูสวย หรูออกแนวไซเบอร์ ก็ต้องรอดูผลตอบรับว่ายอดขายจะเป็นอย่างไร กับอีกหนึ่งโครงการกับแบรนด์ IDEO ครับ
         
        รายละเอียดเพิ่มเติม ลงทะเบียนรับข้อมูล หรือสิทธิ์พิเศษต่างๆได้ที่ >>> www.ideocondo.com/

        Copyright © 2014 Life Sabuy , คอนโดมิเนียม , คอนโด , ราคาประเมิน, ซื้อคอนโด, ราคาคอนโด, ขายคอนโด
        www.lifesabuy.com